มักจะมีคำถามเสมอ ๆ เกี่ยวกับชีวิตทำนองว่า คนเรานั้น “เกิดมาทำไม?” หรือ “เกิดมาเพื่ออะไร?”
สำหรับผม ผมคิดว่ามันเสียเวลาที่จะไปหาคำตอบ เพราะใครจะไปตอบได้ ถึงจะตอบ คำตอบมันก็เป็นแค่ “ความเห็น” และ “ความเห็น” มันอ้างอิงอะไรไม่ได้
“ความเห็น” มันคือความรู้ในระดับต่ำสุดของมนุษย์
(หมายเหตุ: ผมไม่รวมคำสอนของศาสดาใด ๆ มาเกี่ยวข้องกับบทความนี้นะครับ)
แต่ไหน ๆ เราก็เกิดมาแล้ว เป็นเจ้าของชีวิต(เดียว)ของเราแล้ว
ทำไม?.... แทนที่เราจะมาหาคำตอบกับคำถามที่ว่า “เราเกิดมาทำไม?” ....ไม่ดีกว่าหรือที่เราจะมาหาคำตอบว่า “เราควรจะทำอะไรกับชีวิตของเราดี?”
เราจะเป็นเจ้าของชีวิตอยู่ช่วงหนึ่ง และจนถึงบั้นปลายของชีวิต เราก็จะต้องทิ้งชีวิตไป.....ดังนั้น เราควรมาหาคำตอบของชีวิตของเราว่า ก่อนจะทิ้งชีวิตนี้ไป (ไปไหนก็ช่าง) ....
"ในช่วงสุดท้าย เราอยากให้ชีวิตเราเป็นอย่างไร?”
สิ่งมีชีวิตที่เป็นสัตว์โลก ส่วนใหญ่จะมี “ช่วงชีวิต”, หรือ “ช่วงการใช้เวลาในชีวิต” อยู่ 3 โหมดคือ
โหมดของการพึ่งพิง, โหมดการพึ่งตัวเอง และโหมดการเป็นที่พึ่ง
สัตว์โลกส่วนมากเป็นอย่างนั้น ....มนุษย์ ก็เป็นอย่างนั้น
คนพึ่งคนอื่น เป็นภาระของคนอื่น ......แบบนี้ไม่น่าเกิดมาหนักแผ่นดิน
คนพึ่งตัวเอง ดีหน่อย ......แต่แบบนี้เกิดหรือไม่เกิด มีค่าเท่ากัน
คนเป็นที่พึ่งของคนอื่น เป็นผู้รับภาระ .....แบบนี้ควรเกิดมาเยอะ ๆ
คน 3 แบบนี้
แบบแรก จะทุกข์ทรมานแสนสาหัสก่อนตาย เพราะพอถึงช่วงหนึ่งของชีวิต ก็จะหมดที่พึ่ง ไม่มีใครให้เกาะ โดนทิ้งให้ตายคนเดียวแบบทรมาน
แบบที่สอง คนเราพึ่งตัวเองได้จำกัดแค่ช่วงที่มีแรง แต่บั้นปลายชีวิตที่ก็หมดแรง เมื่อถึงเวลาบั้นปลายดูแลตัวเองไม่ได้ ก่อนตายก็ต้องทรมานอยู่คนเดียวเช่นกัน เพราะไม่เคยดูแลใคร
แบบที่สาม เป็นที่พึ่งของคนอื่น.....ก่อนตาย จะมีคนที่เคยได้รับการดูแลแวดล้อมเข้ามา ทำให้ไม่ถูกทิ้งให้ตายแบบโดดเดี่ยวทรมาน
ไม่ต้องหาคำตอบว่าเกิดมาทำไม ไหน ๆ ก็เกิดมาแล้ว.....ตอนเกิดเราเลือกไม่ได้ แต่ตอนตายเราเลือกได้แน่นอน เพราะชีวิตเป็นของเรา เราลิขิตเองได้
ต่อตอนที่ 2
ต่อตอนที่ 2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น